วันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2553

แรงงานเวียดนาม แหกคุกหมู่อีกแล้ว หนีสำเร็จ 1 คน ถูกรวบ 5

ศูนย์กักกันแรงงานต่างชาติผิดกฎหมายที่เมืองเถาหยวนเสียหน้า หลังเกิดเหตุการณ์คนงานเวียดนามผิดกฎหมาย 6 คนแหกห้องกักกัน ด้วยการงัดเหล็กดัดซี่กรงหน้าต่างบนดาดฟ้า แต่ขณะปีนออกนอกหน้าต่างส่งเสียงดัง ส่งผลให้เจ้าหน้าที่รักษาการณ์รุจไปตรวจสอบ ปรากฏว่ารวบคนงานเวียดนามที่เตรียมหลบหนีได้ 5 คน ขณะที่เล็ดลอดหนีออกไปได้ 1 คน เจ้าหน้าที่กำลังตามจับมาดำเนินคดีต่อไป

เหตุการณ์คนงานเวียดนามผิดกฎหมายแหกห้องขังครั้งนี้ เกิดขึ้นที่ศูนย์กักกันคนงานต่างชาติผิดกฎหมายของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
และกิจการชาวต่างชาติสาขาเมืองเถาหยวน ซึ่งเป็นอาคารคอนกรีตสูง 4 ชั้น มีระบบป้องกันการหลบหนีอย่างแน่นหนา แต่มิวายถูกคนงานเวียดนามลูบคม ทำให้เสียหน้า โดยคนงานเวียดนามผิดกฎหมายเพศชาย อายุ 25 ปี ซึ่งมีรูปร่างผอม ตัวเล็ก สูงเพียง 150 ซม. เพิ่งจะถูกจับกุมมาได้เพียงวันเดียว ถูกนำมาฝากควบคุมตัวไว้ที่ศูนย์แห่งนี้ เพื่อรอการเนรเทศส่งกลับประเทศ แต่แรงงานเวียดนามที่ยังไม่คุ้นกับสถานที่รายนี้ น่าทึ่งมากมาอยู่ได้เพียงแค่วันเดียว กลับรู้ช่องทางหลบหนีของสถานกักกันเป็นดี โดยเมื่อรุ่งเช้าวันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้ปีนขึ้นบนเพดานของห้องขัง จากนั้นงัดเหล็กดัดซี่กรงบนดาดฟ้า ที่มีช่องห่าง 15 ซม. ให้ถ่างกว้างเป็น 30 ซม. จากนั้นเล็ดลอดหนีออกไปได้ ขณะที่ยังมีคนงานเวียดนามอีก 5 คน เห็นเพื่อนร่วมชาติหลบหนีต้องการจะหลบหนีตามไปมั่ง แต่ขณะที่งัดซี่กรงเหล็กและเบียดตัวออกจากห้องขังส่งเสียงดัง ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาการณ์ของศูนย์กักกันผิดสังเกตรุจมาตรวจสอบ พบคนงานเวียดนามทั้ง 5 ที่ยังหลบอยู่บนเพดาน ยังไม่ทันหนีออกไป จึงรวบตัวได้ และนำไปควบคุมตัวยังห้องอื่น และรายงานให้กับผู้บังคับบัญชาติดตามตัวคนงานเวียดนามที่หลบหนีออกไปได้รายนี้กลับมาดำเนินคดีต่อไป

ปัญหาแรงงานเวียดนามหลบหนี สร้างความปวดหัวให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างยิ่ง เพราะพวกเขาส่วนใหญ่จะหนีอย่างไม่คิดชีวิต หรือแม้กระทั่งยอมตายที่ไต้หวัน แทนการส่งกลับประเทศ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเปิดเผยว่า การตรวจจับคนงานหลบหนี ถ้าเป็นคนงานเวียดนาม จะต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง เพราะจะกระโดดวิ่งหนีการจับกุม จนร่วงตกลงมาเสียชีวิตไปแล้วหลายราย ขณะที่คนงานไทยและฟิลิปปินส์จะยอมให้ตำรวจจับโดยดี ขณะคุมตัวส่งกลับประเทศก็เช่นกัน ถ้าเป็นคนงานเวียดนาม จะต้องใส่กุญแจมือและต้องมีเจ้าหน้าที่คุมตัวไปในอัตรา 2 นายต่อคนงานเวียดนาม 1 คน เพราะพวกเขาจะหลบหนีทุกวินาทีที่มีโอกาส โดยไม่กลัวความตาย เช่น เปิดประตูโดดออกจากรถตำรวจที่กำลังวิ่งอยู่บนทางด่วนด้วยความเร็วสูง หรือเมื่อส่งถึงสนามบินแล้ว ถ้าเป็นแรงงานไทย ตำรวจจะส่งเข้าด่านตม. สำหรับผู้โดยสารขาออกก็พอแล้ว แต่หากเป็นแรงงานเวียดนาม นอกจากต้องล็อกกุญแจมือแล้ว เจ้าหน้าที่ยังต้องคุมตัวขึ้นเครื่องด้วย และใช่ว่าจะปลอดภัยแล้ว ที่ผ่านมา เคยเกิดเหตุการณ์ที่คนงานเวียดนามผิดกฎหมายถูกคุมตัวขึ้นเครื่องบิน หลังตำรวจลงจากเครื่องแล้ว เปิดประตูฉุกเฉินกระโดดหนี ก่อนเครื่องจะบินขึ้นสู่ท้องฟ้า ทำให้ต้องมีการไล่จับกันวุ่นบนรันเวย์

เมื่อปี 2550 เคยเกิดเหตุการณ์ที่แรงงานเวียดนามผิดกฎหมาย ขณะถูกควบคุมตัวอยู่ที่สถานรองรับแรงงานต่างชาติผิดกฎหมายที่เมืองอี๋หลาน แหกค่ายหลบหนีออกไปแล้วหลายครั้ง ซึ่งมีทั้งใช้วิธีขุดหลุม ไต่หลังคาและปีนออกทางหน้าต่างโดยใช้ผ้าปูที่นอนหย่อนตัวลงไป คล้ายกับหนังฮอลลีวูดแหกคุกชื่อดังเรื่อง ชอว์แชงค์ มิตรภาพ ความหวัง ความรุนแรงเลยทีเดียว จนถึงขั้นทำให้ผู้บัญชาการสถานรองรับคนงานต่างชาติเมืองอี๋หลานถูกปลดไปแล้ว 2 คน ฐานปล่อยให้คนงานต่างชาติผิดกฎหมายแหกคุกออกไปได้

ปัจจุบันแรงงานเวียดนาม ยังคงหลบหนีในอัตราสูง แต่เนื่องจากจำนวนแรงงานเวียดนามมีแนวโน้มลดลง โดยเฉพาะผู้ชาย เพราะนายจ้างและบริษัทจัดหางเบื่อหน่ายต่อปัญหาที่เกิดขึ้นกับคนงานเวียดนามมากมาย แม้ว่าการนำเข้าคนงานเวียดนามจะได้กำไรดีกว่าแรงงานไทย 2-3 เท่าตัวก็ตาม อย่างไรก็ตามจำนวนการหลบหนีและยังไม่ถูกจับกุมของแรงงานเวียดนามยังคงสูงเป็นอันดับหนึ่ง จากสถิติล่าสุดของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและกิจการชาวต่างชาติ ณ สิ้นเดือนเม.ย. ปีนี้ ทั่วไต้หวันมีแรงงานต่างชาติหลบหนีและยังไม่ถูกตรวจพบจับกุมจำนวนทั้งหมด 29,736 คน ในจำนวนนี้ เป็นแรงงานเวียดนาม 13,613 คน อันดับสองที่ไล่ตามมาติดๆ ได้แก่คนงานอินโดนีเซีย 12,038 คน อันดับ 3 ได้แก่คนงานฟิลิปปินส์ 2,843 คน สำหรับแรงงานไทยที่หลบหนีและยังไม่ได้เข้ามอบตัวหรือถูกจับกุมมีทั้งหมด 1,241 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้ชาย 1,012 คน คนงานไทยผู้หญิง 229 คน

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ2 สิงหาคม 2553 เวลา 08:46

    หนีไปไหนถ้าไม่มีงานทำก็ลำบาก เดี๋ยวนี้ต้องตั้งใจเก็บเงินดีกว่าใช่มั้ยครับบบบ

    ตอบลบ