เหตุการณ์ที่คนงานเวียดนามไม่พอใจแพ้การพนัน ซื้อน้ำมันเบนซินราดแล้วจุดไฟเผาร้านคาราโอเกะย่างสดคนงานไทยไปถึง 6 ศพ ยาดเจ็บสาหัสอีก 4 คน ซึ่งเป็นคดีอาชญากรรมสะเทือนขวัญทั่วไต้หวันเมื่อปลายปี 2552 เมื่อวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมานี้ ศาลสูงไต้หวันได้พิพากษาแล้ว โดยยังคงยืนตามคำพิพากษาเดิมของศาลท้องถิ่น ตัดสินจำคุกนาย Tran Quang Cuong แรงงานผิดกฎหมายชาวเวียดนาม ซึ่งเป็นผู้ต้องหาวางเพลิงตลอดชีวิต ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา นาย Hoang Duy Chung ถูกตัดสินจำคุกจาก 10 ปี ลดลงเป็น 7 ปี 6 เดือน ข้อหาช่วยเหลือนาย TRAN ฆ่าคนตาย ส่วนนาง Nguyen ThiNhi แฟนสาวชาติเดียวกันของนาย Tran ถูกตัดสินจำคุก 8 เดือน ข้อหาให้การเท็จ แต่ทั้งสามยังมีโอกาสอุทธรณ์ได้อีก คำพิพากษาของศาลสูงไต้หวันระบุว่า
ผู้ต้องหาชาวเวียดนามเนื่องจากไม่พอใจที่เสียพนันให้คนงานไทยเป็นเงิน 10,000 เหรียญเศษ ขับขี่รถมอเตอร์ไซต์ออกไปซื้อน้ำมันเบนซินที่ปั้มใกล้เคียงในปริมาณ 15 ลิตร จากนั้นกลับมาที่ร้าน จัดการราดน้ำมันทั่วแล้วจุดไฟเผา ทำให้คนงานไทยถูกย่างสดในที่เกิดเหตุ 3 ศพ และไปเสียชีวิต
ที่โรงพยาบาลอีก 3 คน ขณะที่มีผู้บาดเจ็บสาหัส 4 คน
ที่โรงพยาบาลอีก 3 คน ขณะที่มีผู้บาดเจ็บสาหัส 4 คน
เหตุการณ์เผาโหดคนงานไทยคดีนี้ เกิดขึ้นที่เมืองกุยซัน เขตเถาหยวนเมื่อรุ่งเช้า 02.00 น. ของวันที่ 6 พ.ย. 2552 ก่อนหน้าเกิดเหตุคือเมื่อค่ำวันที่ 5 พ.ย. แรงงานไทย 10 คนรวมกลุ่มกันไปรับประทานอาหาร ร้องเพลง เล่นการพนันและมั่วสุมกันเสพยาเสพติดที่ร้านสุโขทัยคาราโอเกะ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้โรงพยาบาลฉางเกิงที่เมืองหลินโข่ว โดยขณะนั้นมีนาย Tran Quang Cuong แรงงานเวียดนามผิดกฎหมายพร้อมเพื่อนชื่อ นาย Hoang Duy Chung ไปฉลองวันเกิดให้กับนาง Nguyen ThiNhi แฟนสาวชาติเดียวกัน อยู่ที่ร้านแห่งนี้ เมื่อเวลาล่วงเลยถึงเที่ยงคืน คนงานทั้ง 2 กลุ่มยังไม่มีทีท่าว่าจะเลิกรา เจ้าของร้านซึ่งเป็นหญิงไต้หวัน และมีความสัมพันธ์ชู้สาวกับ 1 ในคนงานไทยผู้ตาย ไม่อยากเร่งเร้าลูกค้า จึงบอกกับคนงานทั้งสองกลุ่มให้ช่วยปิดไฟ และออกจากร้านทางประตูด้านข้าง จากนั้นเจ้าของร้านก็ปิดประตูเหล็กด้านหน้าและล็อกกุญแจกลับบ้านไปพักผ่อน
ส่วนคนงานไทย ซึ่งบางคนคุ้นเคยกับคนงานเวียดนามกลุ่มนี้ เพราะเป็นขาประจำเช่นเดียวกันที่เคยมาใช้บริการดื่มสุรา เล่นการพนันและเสพยาเสพติดที่ร้านแห่งนี้เป็นประจำ หลังเจ้าของร้านกลับไปแล้ว คนงานไทยบางคนนั่งดูทีวี บางคนเสพยาไอซ์ ขณะที่บางคนชวนคนงานเวียดนามทั้ง 3 เล่นการพนัน แต่เมื่อเล่นไปได้สักพัก คนงานเวียดนามเกิดความไม่พอใจเดินออกจากร้าน เนื่องจากเสียการพนันให้คนงานไทยกว่า 10,000 เหรียญ แต่คนงานไทยไม่ยอมเล่นต่อ จากนั้นนาย Tran ได้ชวนนาย Hoang ขับขี่รถมอเตอร์ไซต์ไปที่ปั้มน้ำมันใกล้เคียง และซื้อน้ำเบนซิน 15 ลิตร บรรจุในถุงพลาสติกกลับมาที่ร้าน จัดแจงราดน้ำมันทั่วร้าน โดยที่คนงานทั้งทั้ง 10 คนไม่รู้ เพราะอยู่ในห้องซึ่งอยู่ข้างใน แล้วจุดไฟเผา เปลวไฟได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เท่านั้นยังไม่พอ นาย Tran ยังคว้าแก๊สกระป๋องในร้านโยนเข้าไปในกองเพลิงหลายกระปอง ทำให้เกิดการระเบิดดังสนั่น จากนั้นคนงานเวียดนามทั้ง 3 ราย ก็ซ้อนมอเตอร์ไซต์หลบหนีไป ส่วนคนงานไทยทั้งสิบคน มารู้ตัวก็ต่อเมื่อเปลวเพลิงลุกไหม้ท่วมร้านจนหนีแทบไม่ทันเสียแล้ว เป็นเหตุให้มีคนงานไทยเสียชีวิตในกองเพลิง 3 ราย ลักษณะของซากศพดำเป็นเถ้าถ่าน จนต้องพิสูจน์ดีเอ็นเอเพื่อยืนยันว่าเป็นใคร คนงานไทยเคราะห์ร้ายทั้ง 3 รายได้แก่ นางข่ง จินอินหรือนางโอ๋ อายุ 31 ปี หญิงไทยที่มาแต่งงานได้สัญชาติไต้หวัน แต่ได้อย่ากับสามีแล้ว นายชูศักดิ์ นามวงษา อายุ 37 ปี มาจากอุดรธานี คนงานไทยของ Bo Hon Enterprise ที่เมืองกุยซัน นายมณรัก ฉิมมา อายุ 42 ปีมาจากกำแพงเพชร เป็นลูกจ้างของบริษัท Chifu Industry Co,. Ltd ที่เมืองกุยซันเขตเถาหยวนเช่นกัน อีก 7 คนที่แม้จะหนีรอดกองไฟออกมาได้ แต่ถูกไฟไหม้อาการสาหัส ถูกนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลฉางเกิง ซึ่งต่อมาทยอยเสียชีวิตไปอีก 3 คนได้แก่ นายยุทธพล เลิศศุภกร อายุ 52 ปี ภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่จังหวัดลพบุรี ซึ่งเป็นชาวไทยที่มาแต่งงานตั้งรกรากที่ไต้หวัน นายวรยุทธ ลาดศิลา อายุ 37 ปี มาจากจังหวัดบุรีรัมย์ ละนายวุฒินันต์ มาฤทธิ์ อายุ 36 ปี มาจากจังหวัดบุรีรัมย์เช่นกัน ส่วนที่เหลืออีก 4 คน หลังจากรับการรักษากว่า 2 เดือน อาการดีขึ้น แต่ก็ต้องพิการไปตลอดชีวิตและได้เดินทางกลับประเทศไปแล้ว ได้แก่ นายธนพล ทนอามาตย์ อายุ 42 ปีมาจากนครราชสีมา นายนิคม พานิชน์ อายุ 33 ปี นางสาวณัฐธิดา มอญปาก อายุ 35 ปี นายนิคม พานิชย์ที่แต่งงานมาตั้งรกรากในไต้หวัน
แม้ศาลจะตัดสินจำคุกมือวางเพลิงชาวเวียดนามตลอดชีวิต แต่สำหรับทายาทผู้ตายแล้ว ไม่มีสิ่งใดจะมาชดเชยกับความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้ได้ และคดีนี้ก็น่าจะเป็นอุทธาหรณ์เตือนใจสำหรับแรงงานไทยผู้นิยมไปมั่วสุมตามสถานที่ต่างๆ ที่ไม่สมควรไป
กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมคืนสนอง
ตอบลบ