วันพฤหัสบดีที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2554

เมืองจางฮั่วทุ่มงบถ่ายทำภาพยนตร์สารคดี บันทึกการทำงานของแรงงานต่างชาติ พร้อมเรียกร้องชาวไต้หวันเป็นมิตรกับแรงงานต่างชาติ

เพื่อให้ชาวเมืองจางฮั่วได้รู้จัก เข้าใจและปฏิบัติต่อแรงงานต่างชาติอย่างเป็นมิตร รัฐบาลเมืองจางฮั่วได้จัดสรรงบประมาณถ่ายทำภาพยนตร์สารคดี บันทึกชีวิตจริงของการทำงานและความสัมพันธ์กับนายจ้างของแรงงานไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์และเวียดนามชาติละ 1คน ความยาว 42 นาทีและนำออกฉายรอบปฐมทัศน์ ณ อาคารที่ทำการรัฐบาลเมืองจางฮั่ว เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. และนำออกแพร่ภาพทางทีวีเมื่อวันที่ 25 และ 26 ธ.ค. ที่ผ่านมา

ภาพถ่ายในงานแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์สารคดี
บันทึกการทำงานของแรงงานต่างชาติ
แถวหลังคนกลาง(คนสูง)ได้แก่นายหยางจ้ง รองผู้ว่าการเมืองจางฮั่ว
ส่วนนายเรืองศักดิ์ยืนอยู่แถวหลังคนขวาสุด
ในพิธีเปิดฉายรอบปฐมทัศน์ นายหยางจ้ง รองผู้ว่าการเมืองจางฮั่วกล่าวว่า ภาคการผลิตมีความสำคัญต่อเมืองจางฮั่วอย่างยิ่ง และการพัฒนาภาคการผลิตให้เจริญรุ่งเรือง นอกจากแรงงานท้องถิ่นแล้ว ยังต้องพึ่งพาแรงงานต่างชาติ โดยปัจจุบัน มีแรงงานต่างชาติทำงานอยู่ในเมืองจางฮั่วจำนวน 25,865 คน แบ่งเป็นคนงานในภาคการผลิต 17,792 คนและผู้อนุบาล 8,073 คน พวกเขากระจายทำงานอยู่ตามโรงงานและครอบครัว ช่วยเหลือกิจการของผู้ประกอบการและดูแลผู้ป่วย ผู้สูงอายุในเมืองจางฮั่ว ในฐานะที่เป็นเมืองแห่งความโอบอ้อมอารีย์ และเป็นเมืองแห่งความสุข ทีมงานรัฐบาล
เมืองจางฮั่วจึงจัดทำภาพยนตร์สารคดีเกี่ยวกับความเป็นอยู่ การทำงานและความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานและนายจ้างของแรงงานต่างชาติ ให้ชาวเมืองจางฮั่วได้รู้จักและเข้าใจว่า แรงงานต่างชาติได้มาช่วยชดเชยภาวะขาดแคลนแรงงาน และช่วยแบ่งเบาภาระในการดูแลผู้ป่วยผู้สูงอายุในครอบครัว เพื่อให้ชาวเมืองจางฮั่วถือปฏิบัติอย่างเป็นมิตรกับพวกเขา เป็นการหลอมรวมต่างวัฒนธรรมเข้าด้วยกัน ขณะเดียวกันก็ช่วยยกระดับภาพลักษณ์ทางด้านสิทธิมนุษยชนสากลของไต้หวัน

สำหรับแรงงานไทยที่ได้รับการถ่ายทำภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้ ได้แก่นายเรืองศักดิ์ ฮ่มป่า อายุ 36 ปี มาจากอ.วานิชภูมิ จ.สกลนคร มีลูกสาว 2 คน ก่อนเดินทางมาทำงานกับบริษัท EA HWA Enterprise Industrial ตั้งอยู่ที่เมืองเซินกั่ง เขตจางฮั่วเป็นรอบที่สอง นายเรืองศักดิ์เคยทำงานอยู่ในสวนยางพารามาก่อนเป็นเวลาร่วม 20 ปี จนวันหนึ่งคุณแม่ได้มาบอกกับเขาว่า ไปทำงานที่ไต้หวันเพื่อเก็บเงินมาซื้อสวนปลูกยางพาราเพิ่มดีกว่า จึงเดินทางมาทำงานที่ไต้หวันตามคำเสนอของแม่ ซึ่งก็โชคดีที่มาเจอโรงงานที่ดูแลเอาใจใส่คนงานต่างชาติ ที่สำคัญคือตัวนายเรืองศักดิ์ มีความกระตือรือร้น ชอบเรียนรู้และไม่เกี่ยงงาน นายจ้างสั่งให้ทำงานอะไร นายเรืองศักดิ์จะทำให้ดีที่สุดและก่อนตามกำหนด สร้างความไว้วางใจแก่นายจ้าง ผู้จัดการฝ่ายบุคคล EA HWA Enterprise Industrial กล่าวว่า นายเรืองศักดิ์ ทำงานขยัน อัธยาศัยดี ให้ความร่วมมือและเรียนรู้งาน เรียนรู้ภาษาจีนได้อย่างรวดเร็ว จนมีความเชี่ยวชาญและปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ ยังไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขใดๆ เงินค่าจ้างจากการทำงานนอกจากส่งกลับบ้านไปเป็นค่าใช้จ่ายของครอบครัวแล้ว ที่เหลือเก็บสะสมไว้ซื้อสวนปลูกยางพาราเพิ่มเติม ซึ่งตอนนี้ ได้ไว้มากกว่า 6,000 ต้นแล้ว นายเรืองศักดิ์ใฝ่ฝันว่า เมื่อทำงานครบสัญญา จะได้กลับไปเป็นเจ้าของสวนยางพาราผืนใหญ่ให้ได้

คลิกชมสารคดีบันทึกการทำงานของแรงงานต่างชาติเมืองจังฮั่ว ฉบับย่อ ที่นี่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น