กรณีที่คณะกรรมการพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำมีมติให้ปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 3.47% หรือปรับขึ้น 600 เหรียญ จากปัจจุบัน 17,280 เหรียญเป็น 17,880 เหรียญไต้หวัน หลังผ่านการอนุมัติจากสภาบริหารแล้ว จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ปี 2553 เป็นต้นไป และประธานสหพันธ์ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมไต้หวัน ซึ่งเป็นตัวแทนของฝ่ายนายจ้างกล่าวในที่ประชุมว่า ทางสหพันธ์เห็นว่า การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ ผู้ได้รับประโยชน์มากที่สุดได้แก่ แรงงานต่างชาติ ดังนั้นจึงควรแยกแรงงานต่างชาติออกจากกฎหมายค่าจ้างขั้นต่ำ ปล่อยให้กลไกตลาดเป็นผู้กำหนดค่าจ้างเอง ทางสหพันธ์จะมีการผลักดันในเรื่องนี้ต่อไป จนกว่าจะสำเร็จนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นางหวางหรูเสวียน ประธาน คณะกรรมการการแรงงานหรือ CLA ของไต้หวันกล่าวว่า ค่าจ้างขั้นต่ำและแรงงานต่างชาติจะแยกออกจากกันไม่ได้ ทั้งนี้เพราะเกี่ยวพันธ์กับประเด็นต่างๆ หลายเรื่อง เช่นสิทธิมนุษย์ชนสากลและจะส่งผลกระทบทางด้านลบต่อโอกาสทำงานและการปรับขึ้นค่าจ้างของแรงงานท้องถิ่นเป็นต้น ดังนั้นจะไม่ยอมให้มีการแยกออก